ไอทีในชีวิตประจำวัน #522 บริษัทแอปเปิ้ลแพ้คดีสิทธิบัตร ()
เคยอ่านหนังสือสตีฟ จ็อบ ทำให้ทราบว่าอุปกรณ์ที่บริษัทแอปเปิ้ลพัฒนาขึ้นมา ส่วนหนึ่งต้องใช้นวัตกรรมของนักพัฒนาจากบริษัทอื่นที่เคยจดสิทธิบัตรไว้ แล้วนำเทคโนโลยีที่ใช่มารวมอยู่ในอุปกรณ์เดียวกันได้อย่างลงตัว แต่บางคุณลักษณะก็ไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง หรือมีคนคิดไว้ก่อนหน้าแล้ว จนมีการฟ้องร้องเป็นคดีความในหลายประเทศ คู่ความที่มีการฟ้องร้องกับบริษัทแอปเปิ้ล และปรากฏเป็นข่าวบ่อยครั้งคือบริษัทซัมซุง ของประเทศเกาหลีใต้ แต่มีอีกหลายคดี เช่น การใช้ผู้ช่วยเสียง Siri บริษัทแอปเปิ้ลก็แพ้คดี กรณีละเมิดสิทธิบัตรในประเทศจีน โดยแพ้ให้กับบริษัท Zhizhen Internet Technology ของเซี่ยงไฮ้ เรื่องการสั่งงานด้วยเสียง
ตุลาคม 2558 ลูกขุนที่สหรัฐอเมริกาได้ตัดสินว่าบริษัทแอปเปิ้ลนั้นผิดจริง ในกรณีที่มหาวิทยาลัย Wisconsin ฟ้องบริษัทแอปเปิ้ลที่นำเทคโนโลยีการประมวลผลคู่ขนานที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของมหาวิทยาลัยไปใช้โดยไม่ขออนุญาต เพื่อผลิตชิปประมวลผล A7 A8 และ A9 ซึ่งอาจมีการตัดสินให้จ่ายค่าเสียหายถึงสามหมื่นล้านบาท พบว่ามีการนำชิปประมวลผลข้างต้นไปใช้ใน iPhone5 iPhone6 และ iPhone6 Plus และ iPad บางรุ่น ก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยได้ยื่นฟ้องบริษัท Intel และมีการตกลงนอกศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การเห็นคุณค่าในทรัพย์สินทางปัญญา แล้วยอมจ่ายให้กับเจ้าของสิทธิก็จะแสดงถึงความมีจริยธรรมในทางธุรกิจ และไม่ประสบปัญหาตามมาในภายหลัง ปัจจุบันทรัพย์สินทางปัญหามีหลายประเภท อาทิ สิทธิบัตร (Patent) เครื่องหมายการค้า (Trademark) ความลับทางการค้า (Trade Secret) สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications) แบบผังภูมิของวงจรรวม (Layout - Design of Integrated Circuit) คุ้มครองพันธุ์พืช (Plant Variety Protection) ภูมิปัญญาท้องถิ่น (Local Wisdom) ชื่อทางการค้า (Trade Name) และลิขสิทธิ์ (Copyright) ดังนั้นการทำธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมก็ควรศึกษาให้ละเอียดว่าสิ่งที่เราพัฒนาขึ้นไปคล้ายกับผลงานของใครที่คิดมาก่อนหน้านี้หรือไม่ และทำเรื่องขออนุญาตให้ถูกต้อง
https://www.blognone.com/node/58189
http://www.telecomjournalthailand.com/apple-faces-862m-patent-lawsuit/
|